ปลาดอลลี่ นึ่งมะนาว เนื้อแน่น ๆ รสชาติจัดจ้าน

“ปลาดอลลี่” หลายคนคงรู้จักหรือได้ยินชื่อนี้จนคุ้นหู หรือหากเรียกชื่อไทย ๆ ก็คือปลาสวายขาว ที่มีพันธุ์ต้นกำเนิดมาจากเวียดนาม ช่วงหลัง ๆ เมื่อเข้ามาในบ้านเราก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเนื้อของปลามีสีขาว แน่น น่ารับประทาน ทำให้ร้านอาหารต่าง ๆ ได้นำไปประกอบอาหารหลากหลายเมนู ที่นิยมกันมากที่สุดก็คือการนำไปทำสเต๊ก, ชุบแป้งทอด, ต้มยำ, ผัด หรือแม้แต่การทำขนมจีนน้ำยา ซึ่งสามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ได้มากมาย แต่ที่ทางทีมงานmohahuntfishจะนำเสนอก็คือเมนูนึ่งมะนาว ที่มีรสชาติจัดจ้านตามแบบฉบับไทย ๆ จะทานเป็นกับข้าวก็ได้ หรือจะเป็นกับแกล้มก็จัดว่าเด็ด 

ขั้นตอนวิธีทำ “ปลาดอลลี่” นึ่งมะนาว

ปลาดอลลี่ 1

ปลาดอลลี่แร่เอาแต่เนื้อ 5 ชิ้น (ต้องเป็นปลาที่สดใหม่)

น้ำมะนาวสด 3-4 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำปลาอย่างดี 3 – 4 ช้อนโต๊ะ

ซอสถั่วเหลือง 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำซุป 5 ช้อนโต๊ะ

กระเทียมไทย สับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

พริกขี้หนูสด สับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ

มะนาวสด ฝานบาง ๆ 4 -5 ชิ้น

ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนวิธีทำ

ปลาดอลลี่ 2

นำเนื้อปลาที่แร่ไว้ไปล้างให้สะอาดแล้วใส่จานแล้วนำไปนึ่งไฟกลาง ๆ ประมาณ 20-25 นาที

ระหว่างที่รอให้ปลาสุก ให้ทำน้ำยำโดยนำส่วนผสม พริกสด กระเทียม ซอสถั่วเหลือง น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำซุป มาผสมให้ละลายจนเข้ากัน 

เมื่อปลาสุกดีแล้วให้ราดน้ำยำลงไป โรยหน้า ด้วยมะนาวฝาน กับผักชี แล้วนำไปเสิร์ฟได้เลย

สูตรเด็ดเคล็ดลับในการทำ ปลาดอลลี่นึ่งมะนาวให้อร่อย

ปลาดอลลี่ 3

“ปลาดอลลี่” นั้นเป็นปลาที่มีเนื้อค่อนข้างแข็ง การนำไปทำอาหารประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะการนึ่งบางครั้งให้เราไม่สามารถกะความร้อนได้ และไม่สามารถมองเห็นได้ว่าใกล้สุกหรือยัง ดังนั้นหลังจากนึ่งผ่านไป 10 นาทีแล้วควรหมั่นเปิดดูเนื้อปลาว่าสุกหรือเปล่า เพราะหากนึ่งนานเกินไปก็จะทำให้เละไม่อร่อย

น้ำมะนาวไม่ควรให้มีเม็ดติดลงไปเพราะจะทำให้มีรสชาติขม ทางที่ดีควรจะกรองเอาเม็ดออกก่อน และต้องใช้มะนาวบีบสด ๆ เท่านั้น ไม่ควรใช้มะนาวคั้นสำเร็จ

การใช้น้ำตาลปี๊บแทนน้ำตาลทรายนอกจากจะทำให้มีกลิ่นหอม ยังช่วยทำให้น้ำยำมีความเหนียวหนืด (แต่หากใครชอบน้ำตาลทรายก็ใช้ได้ไม่ว่ากัน) 

พริกขี้หนูสด ควรจะมีทั้งสีเขียว และสีแดง เพื่อช่วยทำให้มีสีสันน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น

ส่วนผสมที่บอกไปนั้นจะเป็นรสชาติกลาง ๆ หากชอบรสชาติไหนเป็นพิเศษก็สามารถเพิ่มหรือลดได้ แต่ควรจะให้มีเปรี้ยว-เผ็ดนำ หวังว่าเคล็ดลับเล็กน้อยที่ทาง mohahuntfish จะมีประโยชน์ต่อสมาชิกไม่มากก็น้อย ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้กับอาหารเมนูต่าง ๆ อีกด้วย

รูปภาพจาก

https://www.sanook.com/women/170893/

บทความที่อาจสนใจ 5 เมนูปลายอดนิยม 2021 ทำง่าย อร่อยได้คุณค่าโภชนาการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ลองอ่านดูมั้ย

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

ปูนิ่ม ทำไมถึงเรียกแบบนี้

ปูนิ่ม ปูที่มีกระดองนิ่มๆสามารถรับประทานได้ทั้งตัวนี้ มาจากไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร บางคนบอกว่ามันเปิดจากการลอกครอบเพราะตัวใหญ่ขึ้น เลยต้องขยายกระดองแบบนี้ มันเป็นสมมุติฐานที่ถูกต้องหรือไม่ หรือจริงแล้วมันคืออีก สปีชี่ หนึ่งของปูไปเลย แล้วมีใครชอบเมนูที่ทำจากปูนิ่ม และไม่รู้สึกว่ามันเหมือนไม่ได้กินเนื้อปูหวานเต็มปากแต่กลับเป็นเนื้อปูและมีกระดองนิ่มๆที่เคี้ยวได้อยู่ด้วย เราก็ลองมาดูกันว่าเมนูจากปุนิ่มนั้นมีอะไรบ้าง ทำความรู้จักกับปูนิ่ม ปูนิ่มคือ

ปูนา สิ่งมีชีวิตตามท้องทุ่ง สร้างรายได้นับแสน!

ปูนา คือ ปูน้ำจืด ที่มักอาศัยอยู่ตามทุ่งนา หรือนาข้าว เพื่อน ๆ หลายคนคงรู้จักกันดี จากอาหารที่ชื่อว่าส้มตำ ก่อนที่จะเล่าเรื่องปูนา ผมก็ต้องขอสวัสดีเพื่อน ๆ ชาว (ชื่อเว็บ) เช่นเคยนะครับ

ปลากระเบนโมโตโร่ ปลาสวยงามที่เลี้ยงไว้ดูเล่นก็ได้ เลี้ยงไว้ขายก็ได้เงินได้ดี

            ปลากระเบนโมโตโร่ ปลากระเบนที่มีกระแสนิยมสำหรับวงการเลี้ยงปลาสวยงาม หรือปลาตู้ที่สูงมาก ในรูปแบบการชื่นชอบพันธุ์ปลาสวยงาม ด้วยแบบเฉพาะที่ไม่เหมือนปลาสายกระเบนสายพันธุ์ที่เราเห็นกันบ่อยในไทยแล้วนั้น ปลากระเบนชนิดนี้ยังมีลวดลายและสีสันที่สวยงาม และรวมทั้งจุดเด่นในลวดลายให้กับผู้ที่มีความชื่นชอบเลี้ยงปลาหายาก อยู่แล้วนั้นหันมาสนใจในรายละเอียด หลักการเลี้ยงปลากระเบนแบบนี้กันเยอะมากยิ่งขึ้น        ข้อมูลรายละเอียดของ โมโตโร่เป็นอย่างไร       มาทำความรู้จักปลากระเบนสวยงามที่มีชื่อเรียกว่า ปลากระเบนโมโตโร่ (Motoro)​

ปลาทอง 2

ปลาทอง สัตว์เลี้ยงที่ไม่มีใครปฏิเสธถึงความสวยงาม

ปลาทอง สัตว์เลี้ยงที่วันนี้จะพูดถึงไม่ใช่แค่เฉพาะความสวยงามเท่านั้น ที่เราทุกคนต่างต้องยอมยกนิ้วให้เรื่องสีสันของตัวปลาว่าไม่เป็นรองสัตว์เลี้ยงในชนิดอื่นๆ และก็เป็นที่นิยมสำหรับสายเลี้ยงปลาสวยงามไม่แพ้ปลากัดทีเดียว ซึ่งก่อนที่จะมีการปรับปรุงสายพันธุ์ และสีสันตัวปลา ต้นกำเนิดของปลาทองที่เริ่มต้นมีเลี้ยงกันอย่างมากคือที่ ประเทศจีน หลังจากนั้นที่เราได้เห็นสีสันของปลาทองมากมายไม่ว่าจะเป็น สีแดง ส้ม ดำ ขาว เทา ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาสายพันธุ์จากสายพันธุ์ดั้งเดิมของทางญี่ปุ่น